เรื่องราวบนท้องฟ้า ดวงดารา นับว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกอย่างหนึ่งที่แม้ว่าเราศึกษาเท่าไร มันก็เหมือนเราไม่รู้มากขึ้นเท่านั้น ยังมีอีกหลายอย่างที่รอให้เราไปพิสูจน์ให้มากขึ้นไปอีก หรือบางครั้งเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมาใหม่จนเราต้องเข้าไปศึกษาอีกว่ามันคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร อย่าเช่นเหตุการณ์ที่หยิบมาเล่าให้ฟังในวันนี้

การรวมตัวของดาราจักร

เหตุการณ์ในครั้งนี้นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็นได้มากเหมือนกัน ยิ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์สายดาราศาสตร์ด้วยแล้วนี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว เรื่องนี้ก็คือ กลุ่มดวงดาวกลุ่มดาราจักรกำลังขยับเข้าหากัน ซึ่งการขยับเข้าหากันเพื่อรวมตัวกันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่คราวนี้การเข้าหากันมามากถึง 14 กาแล็กซี่นั่นเองเอาแค่ปริมาณมากขนาดนี้ถือว่าเป็นเรื่องเกิดขึ้นยากมาก ส่วนผลที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้ก็คือ จะเกิดกระจุกดาราศาสตร์ใหม่(ภาษาอังกฤษช้ำคำว่า Cluster)

ปรากฏการณ์ที่หาได้ยาก

อย่างที่บอกไปว่าจักรวาลมันเป็นสิ่งที่กว้างใหญ่มาก มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งไม่แปลกที่จักรวาลนั้นจะมีกาแล็กซีอีกมากมายทับซ้อนอยู่ ซึ่งในอวกาศไม่มีแรงดึงดูดนั่นทำให้การที่กาแล็กซีจะขยับเข้าหากันนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะกาแล็กซีต่างก็มีทางเดินเป็นของตัวเอง การจะมาชนกันเพื่อรวมกลุ่มเป็นเรื่องยาก แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ยากกว่านั้นเป็น 10 เท่าเลย เพราะกาแล็กซีที่จะมาชนกันนั้นมากถึง 14 กาแล็กซี หากนับจากความเป็นไปได้นั้นน้อยถึงน้อยมาก

Case study ครั้งสำคัญ

เหตุการณ์ครั้งนี้มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การเข้าร่วมกันจนกลายเป็นกลุ่มดาราจักรขนาดใหญ่ แน่นอนว่าการเกิดขึ้นครั้งนี้จะเป็น case study หรือ กรณีตัวอย่างให้เราได้ศึกษาว่าหากกาแล็กซีมารวมตัวกันขนาดนี้จะเกิดอะไรขึ้น ไม่แน่การเกิดครั้งนี้อาจจะทำให้เราค้นพบว่า กาแล็กซีทางช้างเผือกของเรานั้นเกิดมาได้อย่างไรก็ต้องมาดูว่า การเกิดกระจุกดาราศาสตร์ครั้งนี้เราจะได้อะไรจากมันบ้าง

ผู้ค้นพบเหตุการณ์ครั้งนี้

เหตุการณ์สำคัญของโลกดาราศาสตร์ครั้งนี้ค้นพบโดย นายทิม มิลเลอร์ นักศึกษาวิจัยระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยเยล จากประเทศสหรัฐอเมริกาเค้าค้นพบเหตุการณ์นี้จากกล้องโทรทรรศน์ขั้วโลกใต้บนทวีปแอนตาร์กติกา จากการค้นพบนี้เค้าบอกว่า สิ่งที่เห็นนั้นเกิดจากจักรวาลที่ห่างไกลมาก แสงที่เห็นของเหตุการณ์นี้เดินทางมาไกลมากคิดเป็นเวลาก็ประมาณ หมื่นล้านปีก่อน (นานมาก) เค้าบอกว่าเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นในอวกาศที่อยู่เกือบสุดขอบจักรวาลที่เราพอจะสังเกตได้ ขนาดอยู่แทบจะสุดขอบจักรวาลที่เราสามารถมองเห็นได้ แต่ก็ยังเจออีกต้องยอมรับความจริงนั้นเลยทีเดียว